กลูต้าไธโอนเพื่อความขาว

Glutathione เป็นสารที่สามารถสร้างขึ้นเองในร่างกายได้นะคะ มีคุณสมบัติเป็น anti-oxidant ช่วยในการกำจัดสารพิษที่ไม่ละลายน้ำในร่างกาย และช่วยป้องกันความเป็นพิษต่อตับในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นกลไกที่ช่วยป้องกันการเกิดพิษจากการทานยาพาราเซตามอล (ที่ฉลากข้างขวดพาราเซตามอลมักจะเขียนว่าไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 10 วัน หรือไม่ควรกินเกินวันละ 8 เม็ด เพราะ glutathione มันป้องกันพิษจากยาไม่ได้ จะทำให้ตับวายได้ค่ะ)

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า glutathione ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อีกด้วย

จากการที่มันมีฤทธิ์เป็น anti-oxidant เลยมีคนคิดนำมาใช้เพื่อเป็นยารักษามะเร็ง ซึ่งระหว่างการศึกษาพบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับยา glutathione นั้นมีผิวที่ขาวขึ้น จึงค้นพบว่า glutathione สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ใช้สร้างเม็ดสีเมลานินได้

แต่ในการใช้รักษามะเร็งยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มออกมาโต้ว่า glutathione นั้นเพิ่มการไหลเวียนของเลือดจากความสามารถที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัวเพิ่มขึ้น อาจจะทำให้มะเร็งได้รับเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น จนทำให้รักษาได้ยากมากขึ้น

ถ้าอยากได้ glutathione เพิ่ม จะหาได้จากไหน?

เราสามารถได้รับ glutathione ได้จากผักและผลไม้ทั่วๆ ไป เนื้อสัตว์ นม แต่จะพบมาในอะโวกาโด วอลนัท หรืออาจะได้รับจากอาหารเสริม เช่น Alfa-lipoic acid, Glutamine3, VitaminB6 VitaminB2 VitaminC

หรืออาจะได้รับจากยาที่ชื่อว่า N-acetyl cysteine ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในกระบวนการสังเคราะห์ glutathione ในร่างกาย

สำหรับการฉีด glutathione ในทางการแพทย์จริงๆ แล้วจะฉีดก็ต่อเมื่อร่างกายมีการทำงายของตับผิดปกติ ไม่สามารถสร้างสารนี้ได้ หรือใช้เมื่อต้องการเพิ่มการไหลเวียนเลือด เช่น กรณีที่ผู้ป่วยเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ( ischemic heart disease ) หรือในกรณีที่ผู้ป่วยทำการผ่าตัด by-pass

แต่การที่หลอดเลือดขยายตัวมาก แม้จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี แต่ก็ทำให้เกิดความดันต่ำได้ และทำให้เลือดแข็งตัวช้า อาจทำให้มีปัญหาเวลาที่เป็นแผลได้

อีกทั้งการฉีดเอาสาร glutathione เข้าสู่ร่างกายโดยตรงอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ได้ ซึ่งอาการจะมีตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรงแก่ชีวิตได้

นอกจากนี้ การที่เม็ดสีไม่สร้าง จะทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้น ความสามารถในการกรองรังสีต่างๆ ของผิวหนังจะลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังมากขึ้น โอกาสเกิดฟ้า กระได้มากขึ้น ทำให้จอประสาทตาไวต่อแสงมากขึ้นอาจจะส่งผลให้การมองเห็นผิดปกติได้